วันเสาร์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2553

การปกครองในสมัยธนบุรี


ลักษณะ การปกครองธนบุรี

การปกครองในสมัยธนบุรีคงดำเนินตามแบบสมัยอยุธยาตอนปลายสรุปได้ดัง นี้

การ ปกครองส่วนกลางมีตำแหน่งอัครมหาเสนาบดี 2 ตำแหน่ง สมุหนายก” ( เจ้าพระยาจักรีและพระยายมราชเป็นหัวหน้า) รับผิดชอบดูแล หัวเมืองฝ่ายเหนือทั้งทหารและพลเรือนในฐานะเจ้าเสนาบดีกรมมหาดไทย สมุหพระกลาโหม เจ้าพระยามหาเสนาเป็นที่ปรึกษาราชการแผ่นดิน ส่วนหน้าที่ดูแลหัวเมืองฝ่ายใต้ให้ขึ้นกับ พระยาโกษาธิบดีซึ่งว่าการกรมคลังและดูแลหัวเมืองชายฝั่งตะวันออก

กรม เมือง ( นครบาล )ทำหน้าที่เกี่ยวกับการ ปกครองในเขตราชธานี ตลอดจนการบำบัดทุกข์บำรุงสุขของราษฎร

กรม วัง ( ธรรมมาธิกรณ์ ) มีหน้าที่เกี่ยวกับการในราช สำนัก กับทำหน้าที่พิพากษาอรรถคดี

กรม คลัง ( โกษาธิบดี )มีหน้าที่เกี่ยวกับการรับจ่ายเงินของแผ่นดิน ทำหน้าที่เกี่ยวกับการติดต่อกับต่างประเทศ

กรน นา ( เกษตราธิการ ) มีหน้าที่เกี่ยวกับเรือกสวน ไร่นา และเสบียงอาหาร

การปกครองส่วนภูมิภาค แบ่งหัวเมืองเป็น 2 ประเภท

เมือง พระยามหานคร หัวเมืองชั้นนอกทรงแต่ง ตั้งข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ออกไปเป็นเจ้าเมือง จำแนกเป็นเมืองชั้นเอก ชั้นโท ชั้นจัตวา ต่อมาขึ้นกับ กรมท่า (กรมพระคลัง)

เมืองประเทศราช โปรดให้ประมุขของเมืองนั้นปกครองกันเองโดยส่งต้นไม้เงิน ต้นไม้ทองและเครื่องราชบรรณาการ

ใน เริ่มแรกของการตั้งอาณาจักรธนบุรีทางทิศเหนือจรด นครสวรรค์ ทางทิศใต้จรดเมืองเพชรบุรีทางทิศตะวันออกจรดเมืองตราด ปราจีนบุรี ทางทิศตะวันตกจดเขตแดนพม่าแถวเมืองกาญจนบุรี เมืองสุพรรณบุรี จนกระทั่งพ.. 2313 จึง สามารถรวบรวมบรรดาหัวเมืองที่เคยขึ้นกับอยุธยา มาอยู่ภายใต้การปกครองกรุงธนบุรีทั้งหมด ทรงปราบชุมนุมต่างๆ มีชุมนุมเจ้าพระฝางเป็นชุมนุมสุดท้าย ได้โปรดให้จัดการปกครองหัวเมืองเหนือครั้ง ใหญ่ ทรงโปรดเกล้าให้แม่ทัพนายกองคนสำคัญออกไปปกครองดูแลหัวเมืองเหนือเช่นเมือง พิษณุโลก เจ้าพระยาสุรสีห์พิษณุวาธิ ราชเมืองสวรรค์โลก เจ้าพระยาพิชัยราชาเมือง สุโขทัย พระท้ายน้ำ เมืองพิชัย พระยาสีหราชเดโช ( ต่อมาได้ เลื่อนขึ้นเป็น พระยาพิชัย ผู้คนตั้งสมญา ต่อท้าย

ว่าพระยาพิชัยดาบหัก “ ) เมืองนครสวรรค์ เจ้าพระยาอนุรักษ์ภูธร

การ ปกครองเมืองเหนือพ..2313นับ เป็นความสำคัญเพราะเวลานั้นพม่ายึดครองเมือง เชียงใหม่ และมีกำลังเข็มแข็ง การดูแลหัวเมืองเหนือเป็นเมืองหน้าด่านที่มีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ในการปก ป้องและการขยายราชอาณาจักรปลายรัชกาลอาณาจักรขยายไปกว่าเดิมเป็นอันมากมี เนื้อที่มากกว่าปัจจุบันเป็นเท่าตัว ทางทิศเหนือได้หัวเมืองล้านนา ตลอดถึงเมืองเชียงแสน ทิศตะวันออกเฉียงเหนือได้หัวเมืองลาวตลอดจนถึง นครเวียงจันทน์ หัวเมืองพวนและนครหลวง พระบาง ทิศตะวันออกเฉียงใต้ตีหัวเมืองเขมรตลอดจนถึง พุธไธมาศ ทางทิศใต้ตลอดถึง เมืองไทรบุรีและตรังกานู ทิศตะวันตกแผ่ไปถึงเมืองมะริด เมืองตะนาวศรีทะลุออกมหาสมุทรอินเดีย

แบบทดสอบ

http://uploadingit.com/d/ASGDXA2PGUESQAXF

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น